history 

                            ในปี พ.ศ.2481 อำเภอบางบัวทองได้มีระบบสหกรณ์ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเป็น สหกรณ์หาทุนชนิดไม่จำกัดสินใช้ ในเวลาต่อมาประชาชนหมู่บ้านต่างๆ ได้เล็งเห็น ประโยชน์ของสหกรณ์ ที่เป็นระบบช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เอารัดเอาเปรียบ จึงเกิดการรวมตัวกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จำนวน 25 สหกรณ์ ต่อมา ในปี พ.ศ.2482-2484 ได้จัดตั้งสหกรณ์เพิ่มขึ้นอีก 2 สหกรณ์ คือ สหกรณ์ขายข้าว และสหกรณ์ต้นค้า ตามลำดับ (ชำระบัญชีเลิกสหกรณ์แล้ว) ต่อมาทางราชการ ได้มีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้มีอาชีพเกษตรกรรม รวมตัวกันเป็น สหกรณ์ และรัฐบาลได้ตรา พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 ขึ้นใหม่ ประกอบ กับประชาชนเริ่มมีความรู้ความเข้าใจต่อระบบสหกรณ์อย่างแพร่หลาย สหกรณ์ ที่เกิดขึ้นของอำเภอบางบัวทอง 25 สหกรณ์ จึงควบเข้าเป็นสหกรณ์เดียวกัน  ใช้ชื่อว่าสหกรณ์การเกษตรบางบัวทอง จำกัด เป็นสหกรณ์ประเภทสหกรณ์ การธนกิจ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2513

                            สหกรณ์การเกษตรบางบัวทอง จำกัด ได้เริ่มดำเนินกิจการเฉพาะสินเชื่อ เพื่อให้ สมาชิกกู้ยืมไปประกอบอาชีพเท่านั้น โดยมีสมาชิกแรกตั้ง 363 คน มีทุนดำเนินงาน ครั้งแรก 177,900 บาท ซึ่งผลการดำเนินงานปีแรก จำนวนปริมาณธุรกิจหมุนเวียน 3,299,490 บาท มีกำไรสุทธิ 69,268 บาท และระยะเวลาต่อมา เมื่อปี พ.ศ.2514 รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับระบบสหกรณ์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากกระแสการยอมรับ ของประชาชน กับระบบสหกรณ์จึงมีนโยบายให้สหกรณ์ทุกแห่ง สามารถดำเนิน ธุรกิจครบวงจร ทั้งด้านสินเเชื่อ ด้านการรวบรวมผลิตผล การจำหน่ายสินค้และ อุปกรณ์การธนกิจ เป็นสหกรณ์ประเภทการเกษตร ชื่อว่า "สหกกรณ์การเกษตราบางบัวทอง จำกัด" เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2516 เรื่อยมาจนถึง ปัจจุบัน

                           การดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ระยะเริ่มแรก เมื่อปี พ.ศ.2513 ไม่มีอาคาร สำนักงานเป็นของตนเอง ได้อาศัยสำนักงานสหกรณ์อำเภอบางบัวทอง เป็นสำนักงาน ของสหกรณ์ (ทางราชการเช่าที่ดินของสหกรณ์ปลูกสร้าง) จนถึงปี พ.ศ.2526 กิจการของสหกรณ์ได้เจริญรุ่งเรืองขึ้น คณะกรรมการดำเนินการ จึงได้ตัดสินใจซื้อ อาคารพาณิชย์ เป็นอาคารตึก 4 ชั้น เนื้อที่ 31 ตารางวา อยู่ติดถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนเขตเทศบาลบางบัวทอง เป็นสำนักงานของสหกรณ์ อย่างถาวร และธุรกิจของสหกรณ์เจริญก้าวหน้าขึ้นเรื่อย และในปี พ.ศ.2531 คณะกรรมการดำเนินการจึงได้ซื้ออาคารพาณิชย์เป็นอาคารตึก 3.5 ชั้น เนื้อที่ 18 ตารางวา อยู่ด้านหลังอาคารสำนักงานสหกรณ์ เพื่อใช้เป็นโกดังสินค้าของสหกรณ์ ปัจจุบันสินทรัพย์ถาวรของสหกรณ์ฯ นอกจากอาคารสำนักงานและโกดังสินค้า ดังกล่าว สหกรณ์ยังมีที่ดิน เนื้อที่ 2-0-20 ตารางวา ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล ริมคลองพระพิมลราชา มีคณะกรรมการเข้ามาบริหารถึง 38 ชุด และปี 2548 สหกรณ์ได้ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร เนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 67 ตารางวา มูลค่า 17 ล้านบาท เลขที่ 38/9 หมู่ 6 ตำบลละหาร อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และย้ายสำนักงาน มาอยู่จนถึงปัจจุบัน