ประวัติความเป็นมาของสหกรณ์การเกษตรเลิงนกทา จำกัด
สหกรณ์การเกษตรเลิงนกทา จำกัด ได้รับจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511
เลขทะเบียนที่ 41/2518 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2518 เริ่มดำเนินงาน วันที่ 2 พฤษภาคม 2518 สำนักงาน
ตั้งอยู่ที่ตลาดสามแยก โดยเช่าบ้านของนายเสร็จ ไชยกุล เดือนละ 500 บาท ทำสัญญาใว้ 2 ปี มีสมาชิก
แรกตั้ง 140 คน ทุนเรือนหุ้นจำนวน 16,600 บาท มีคณะกรรมการทั้งหมด 12 คน โดยมีนายคำศรี ทับแสง เป็นประธานกรรมการ
สหกรณ์ไม่ได้จ้างพนักงานฉะนั้นการดำเนินงานจึงให้กรรมการมาปฏิบัติงานเองโดยผลัดเปลี่ยนกันมาทำงาน แต่ถ้ามีเหตุกรณีเร่งด่วนก็มอบให้ ประธาน รองประธาน เลขานุการ เหรัญญิก ดำเนินการไปก่อนแล้วจึงแจ้งให้ที่ประชุมกรรมการทราบภายหลังแต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์
(สหกรณ์อำเภอ) สหกรณ์อำเภอคนแรกขณะนั้นคือ นายสมดี พรมสวัสดิ์ สหกรณ์มีวงเงินกู้ยืมครั้งแรก 1,000,000.00 บาท และมีธุรกิจสินเชื่ออย่างเดียว ระเบียบว่าด้วยเงินกู้ครั้งแรก 1. ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน คือโฉนด หรือ น.ส.3 ตีราคาประเมินให้ไร่ละ 1,000 บาท 2. ใช้บุคคลค้ำประกันแต่บุคคลค้ำ 1 ใน 2 คน ต้องมีโฉนด หรือ น.ส.3เป็นของตนเอง ส่วนสมาชิกที่ไม่มีโฉนด หรือ น.ส.3 สหกรณ์ก็จะพยายามช่วยเหลือโดยติดต่อกับที่ดินอำเภอออกหลักฐานให้โดยรวบรวมชื่อแล้วยื่นที่ดินอำเภอต่อไป
เมื่อปี พ.ศ. 2519 สหกรณ์ โดย นายเพชร ไชยกุล เป็นประธานกรรมการ ได้ขยายธุรกิจอีก 2 ธุรกิจ คือ 1. ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย(ปุ๋ย) 2. ธุรกิจรวบรวมผลิตผล และได้ซื้อที่ดินจาก นางลุน หมุนสุข
มีหลักฐานกรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็น สค.1 จำนวน 12 ไร่ ราคา 75,000 บาท เพื่อสร้างฉางและสำนักงาน หลังจากนั้นช่วงเดือนพฤศจิกายน 2519 สหกรณ์ก็สร้างฉางเพื่อรวบรวมข้าวเปลือก 1 หลัง ความจุ 500 ตัน ลักษณะฉางเป็นไม้ทั้งหลัง ราคา 340,000 บาท โดยกู้เงินจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ จำนวน 170,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ระยะเวลา 15 ปี และกู้จาก ธกส.อีก จำนวน 170,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ระยะเวลา 15 ปีเท่ากัน มีเงื่อนไขในการชำระหนี้เหมือนกันคือ ระยะเวลา 6 ปีแรก ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยส่วนอีกที่เหลือ 9 ปีให้ส่งทั้งต้นและดอกเบี้ยจนครบในขณะเดียวกันก็ได้สร้างสำนักงานอีก 1 หลังพร้อมบ่อบาดาล 1 บ่อ ราคา 50,000 บาท สำนักงานเป็นบังกะโลเล็กๆ 2 ห้องก่ออิฐขึ้นประมาณ 1 เมตรแล้วต่อด้วยไม้เป็นผาผนัง ทั้งฉางและสำนักงานสร้างเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคม 2520 และได้จ้างลูกจ้าง 1 คน เดือนละ 400 บาท สหกรณ์ก็ย้ายเข้ามาอยู่ตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน
เมื่อปี พ.ศ.2523 สหกรณ์มีสมาชิกเพิ่มขึ้นจึงได้สร้างสำนักงานหลังใหม่อีก 1 หลัง เป็นอาคารปูน
ชั้นเดียวขนาด 72 ตารางเมตร ราคา 220,000. บาท ปัจจุบันใช้เป็นโรงผลิตน้ำดื่ม
ช่วงปี พ.ศ. 2525 – 2528 สหกรณ์เกิดวิกฤตทางการเงินขาดสภาพคล่องสมาชิกลาออกพนักงาน
ถูกให้ออก 3 คน ลาออก 1 คน ไม่มีพนักงาน เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์จึงได้แนะนำให้คณะกรรมการคัดเลือกพนักงานจากสหกรณ์อื่นที่จบการศึกษาทางสถาบันการศึกษาทางสหกรณ์ คณะกรรมการมีมติตกลงตามที่เจ้าหน้าที่ส่งเสริมแนะนำ และหลังจากนั้นสหกรณ์ก็ค่อยประครองมาเรื่อยจนถึงปี 2531 ก็มีเจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ฝีมือดีมาช่วยเรียกความเชื่อมั่นและศัทธาของสมาชิสหกรณ์กลับคืนมาและสร้างความเจริญ ก้าวหน้าให้กับสหกรณ์อย่างที่สหกรณ์ไม่อาจลืมได้บุคคลท่านนั้นคือ นายวรรณา ขวัญงาม สหกรณ์อำเภอย้ายมาดำรงตำแหน่งสหกรณ์อำเภอตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 จนถึง ปี พ.ศ.2537 จนเกษียณราชการที่นี่ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2537 สหกรณ์ได้จัดงานเลี้ยงส่งอย่างสมเกียรติโดยจัดโต้ะจีน 100 โต้ะ
ปัจจุบันมีอาคารสำนักงานขนาด 192 ตารางเมตร สูง 2 ชั้นครึ่ง ราคา 2,820,000 บาท สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2542 ทำพิธีเปิดสำนักงานใหม่ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฯพณฯ ปองพล อดิเรกสาร พร้อมคณะ